หน้าแรก
เกี่ยวกับ
หัวข้อเรื่อง
บทนำ
วัตถุประสงค์
เนื้อหา
บทที่ 1 ความรู้เบื่้องต้นเกี่ยวกับบัญชี
บทที่ 2 สินทรัพย์ หนี้สิน และส่วนของเจ้าŦ
บทที่ 3 วิเคราะห์รายการค้า
บทที่ 4 การบันทึกรายการในสมุดรายวันทั่ว
บทที่ 5 การบันทึกรายการในสมุดแยกประเภท
บทที่ 6 งบทดลอง
บทที่ 7 กระดาษทำการ
ติดต่อ
บทที่ 3 การวิเคราะห์รายการค้า
ความหมายของการวิเคราะห์รายการค้า
การวิเคราห์รายการค้า
(
Business Transaction Analysis)
ความหมายของการวิเคราะห์รายการค้า (Business Transaction Analysis)
การวิเคราะห์รายการค้า หมายถึง การพิจารณาว่ารายการค้าที่เกิดขึ้น มีผลทำให้สินทรัพย์ หนี้สิน และส่วนของเจ้า ของ เปลี่ยนแปลงไปในทางที่เพิ่มขึ้น หรือลดลงเป็นจำนวนเท่าใด เมื่อวิเคราะห์รายการค้าได้แล้วจึงนำไปบันทึกลงในสมุดบัญชีต่าง ๆ หลักในการวิเคราะห์รายการค้า
ประเภทของบัญชี
ประเภทของบัญชี แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้
1.บัญชีประเภทสินทรัพย์ ได้แก บัญชีประเภทสินทรัพย์หมุนเวียน สินทรัพย์ถาวร และสินทรัพย์อื่น ๆ
2.บัญชีประเภทหนี้สิน ได้แก่ บัญชีประเภทหนี้สินหมุนเวียน และหนี้สินระยะยาว
3.บัญชีรปะเภทส่วนของเจ้าของ ได้แก่ บัญชีประเภททุน และการถอนเงินไปใช้ส่วนตัว
การกำหนดชื่อบัญชีแยกประเภท
หลักจากที่ได้วิเคราะห์รายการค้าแล้ว ให้พิจารณาว่ารายการค้าที่จะบันทึกบัญชีนั้นใช้ชื่อบัญชีใด โดยคำนึงถึงความเหมาะสมด้วย
หลักเกณฑ์ในการพิจารณาการกำหนดชื่อบัญชีแยกประเภท มีดังนี้
1.ใช้ชื่อบัญชีที่นิยมใช้โดยทั่วไป
2.ตั้งชื่ิให้มีความหมายตามประเภทและหมวดของบัญชี
3.ไม่ควรตั้งชื่อบัญชียาวไป หรือชื่อแปลก
4.ชื่อบัญชีที่ตั้งนั้นควรลงรายการค้าได้มาก ๆ
การตั้งชื่ิบัญชีตามประเภทของบัญชี มีดังนี้
1.บัญชีประเภทสินทรัพย์ ได้นำชื่อของสินทรัพยืมาตั้งชื่อบัญชี เช่น บัญชีเงินสด บัญชีลูกหนี้ บัญชีวัสดุสำนักงาน ฯลฯ
2.บัญชีประเภทหนี้สิน ให้นำชื่อหนี้สินมาตั้งเป็นชื่อบัญชี เช่น บัญชีเจ้าหนี้ บัญชีเงินกู้ ฯลฯ
3.บัญชีประเภทส่วนของเจ้าของ ให้นำชื่อประเภทส่วนของเจ่าของมาตั้งเป็นชื่อบัญชี เช่น บัญชีทุน บัญชีถอนใช้ส่วนตัว ฯลฯ